เมื่อพูดถึง 5G หลายคนอาจนึกถึงแค่อินเทอร์เน็ตบนมือถือที่เร็วขึ้น แต่ในความจริงแล้ว 5G มีเทคโนโลยีเบื้องหลังมากกว่านั้น หนึ่งในฟีเจอร์ที่ทรงพลังที่สุดคือ Network Slicing ซึ่งถูกมองว่าเป็นหัวใจสำคัญของการสร้าง IoT (Internet of Things) และ Smart City ในอนาคต
Network Slicing คืออะไร?
ลองจินตนาการว่าเครือข่าย 5G คือ “ถนนซูเปอร์ไฮเวย์” ขนาดใหญ่ที่รถทุกประเภทสามารถวิ่งได้พร้อมกัน
Network Slicing ก็คือการ “แบ่งช่องทาง” บนถนนเส้นนี้ออกเป็นเลนย่อย ๆ โดยแต่ละเลนถูกออกแบบมาเพื่อรองรับการใช้งานที่แตกต่างกัน เช่น
- เลนสำหรับ สมาร์ทโฟนทั่วไป → ความเร็วสูง ดูวิดีโอ เล่นเกมได้ลื่น
- เลนสำหรับ อุปกรณ์ทางการแพทย์ → ต้องการความเสถียรและความหน่วงต่ำ (Latency ต่ำ)
- เลนสำหรับ ระบบจราจรอัจฉริยะ → รองรับเซนเซอร์และรถเชื่อมต่อจำนวนมหาศาล
- เลนสำหรับ โรงงานอัจฉริยะ (Smart Factory) → ต้องการเครือข่ายเฉพาะที่ปลอดภัยและมีประสิทธิภาพสูง
พูดง่าย ๆ คือ แทนที่ทุกบริการจะแย่งกันใช้ถนนเส้นเดียว Network Slicing ทำให้สามารถสร้างเลนพิเศษเฉพาะกิจได้ตามความต้องการของแต่ละงาน
ทำไม Network Slicing ถึงสำคัญกับ IoT และ Smart City?
1. รองรับอุปกรณ์มหาศาล
ในอนาคตจะมี อุปกรณ์ IoT นับพันล้านชิ้น ทั้งกล้อง CCTV, เซนเซอร์สิ่งแวดล้อม, เครื่องใช้ไฟฟ้า ไปจนถึงรถยนต์ไร้คนขับ
➡ Network Slicing ช่วยให้แต่ละกลุ่มอุปกรณ์มีเครือข่ายเฉพาะ ไม่แย่งทรัพยากรกัน
2. ความหน่วงต่ำ (Ultra-Low Latency)
บางบริการ เช่น รถไร้คนขับ หรือการผ่าตัดทางไกล ต้องการการตอบสนองในระดับมิลลิวินาที
➡ เลนพิเศษของ Network Slicing รับประกันความเร็วและเสถียรภาพ
3. ความปลอดภัยสูง
ระบบอย่าง โครงสร้างพื้นฐานของเมือง (ไฟฟ้า, น้ำ, การจราจร) ต้องการความปลอดภัยสูง
➡ สามารถสร้าง Slice ที่มีการเข้ารหัสและควบคุมการเข้าถึงได้เฉพาะ
4. ใช้งานได้ตามความต้องการ (Customized Network)
แต่ละเมืองหรือธุรกิจมีความต้องการต่างกัน เช่น เมืองท่องเที่ยวอาจเน้น Wi-Fi/AR สำหรับนักท่องเที่ยว ส่วนเมืองอุตสาหกรรมอาจเน้น Smart Factory
➡ Network Slicing ทำให้ “เครือข่ายปรับแต่งได้”
ตัวอย่างการใช้งานจริง
- Smart City: ระบบไฟจราจรอัจฉริยะ, เซนเซอร์ตรวจคุณภาพอากาศ, กล้องวงจรปิด AI
- Smart Healthcare: การแพทย์ทางไกล, รถพยาบาลเชื่อมต่อข้อมูลผู้ป่วยแบบเรียลไทม์
- Smart Factory: หุ่นยนต์และเครื่องจักรสื่อสารกันด้วยความหน่วงต่ำ
- Smart Mobility: รถยนต์ไร้คนขับเชื่อมต่อกับสัญญาณไฟและถนน
สรุป
5G Network Slicing ไม่ใช่แค่ฟีเจอร์ทางเทคนิค แต่เป็นตัวเปลี่ยนเกม ที่จะทำให้ IoT และ Smart City กลายเป็นจริงได้อย่างมีประสิทธิภาพ เพราะมันสามารถแบ่งเครือข่ายออกเป็น “เลนเฉพาะ” ที่ตอบโจทย์การใช้งานแต่ละแบบได้อย่างลงตัว
ในอนาคต หากไม่มี Network Slicing เมืองอัจฉริยะก็อาจกลายเป็น “เมืองติดขัด” ที่อุปกรณ์แย่งกันใช้งานเครือข่าย แต่ด้วยเทคโนโลยีนี้ เมืองและอุตสาหกรรมจะสามารถเชื่อมต่อกันได้อย่างราบรื่น ปลอดภัย และยั่งยืน
อ่านบทความเพิ่มเติมที่ : https://www.itbtthai.com/category/itbt-activities/
เรียบเรียงโดย : อลิตา จันทร์เพ็ชร