คลังความรู้

MA Network สำคัญแค่ไหน? ถ้าไม่มีใครดูแลระบบเครือข่ายของคุณ?

ในยุคที่ “ธุรกิจขับเคลื่อนด้วยข้อมูล” ระบบเครือข่าย (Network) เปรียบได้กับเส้นเลือดใหญ่ขององค์กร ไม่ว่าจะเป็นการใช้อีเมล ระบบบัญชี ERP หรือการเข้าถึงข้อมูลจากระยะไกล — ทุกอย่างล้วนพึ่งพาโครงสร้างเครือข่ายที่เสถียรและปลอดภัย แต่คำถามคือ: ใครดูแลระบบเครือข่ายของคุณอยู่ตอนนี้? หากคำตอบคือ “ไม่มี” หรือ “ทีมไอทีของเราทำหลายอย่างเกินไปจนไม่มีเวลาดูเต็มระบบ” คุณอาจกำลังเสี่ยงต่อการสูญเสียข้อมูล รายได้ หรือแม้กระทั่งความน่าเชื่อถือของธุรกิจ 1. MA Network คืออะไร? MA ย่อมาจาก Maintenance Agreement คือ บริการดูแลระบบเครือข่ายภายใต้สัญญาแบบรายเดือนหรือรายปี ซึ่งครอบคลุมทั้ง การตรวจสอบเชิงป้องกัน (Preventive) และ การแก้ปัญหาเชิงรุก (Corrective) สิ่งที่ MA Network โดยทั่วไปจะครอบคลุม เช่น: 2.ถ้าไม่มี MA Network จะเกิดอะไรขึ้น? 3. MA เหมาะกับใคร? สรุป MA Network ไม่ใช่ค่าใช้จ่าย แต่คือ “การประกันความต่อเนื่องของธุรกิจ”การที่ระบบล่มโดยไม่มีใครรู้ ไม่ใช่แค่เรื่องเทคนิค แต่มันคือ “ต้นทุนแฝง” ที่หลายองค์กรมองไม่เห็น แจกฟรี! แบบฟอร์มตรวจสอบและบำรุงรักษาระบบเครือข่าย (Network Maintenance Checklist)

0
Read More

AI กับการบริหารจัดการระบบ Cloud Network: แค่เริ่มต้นหรือจะมาแทนคน?

AI กับการบริหารจัดการระบบ Cloud Network แค่เริ่มต้น หรือจะมาแทนคน? การเปลี่ยนผ่านของเทคโนโลยี Cloud ที่รวดเร็วในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ทำให้องค์กรต่าง ๆ ต้องปรับตัวกับการจัดการระบบเครือข่ายที่ซับซ้อนขึ้นเรื่อย ๆ และตอนนี้ “AI” กำลังเข้ามาเป็นผู้ช่วยสำคัญในการจัดการ Cloud Network — แต่คำถามคือ… “AI จะมาเสริม หรือแทนผู้เชี่ยวชาญเครือข่ายในอนาคต?” AI กำลังทำอะไรในระบบ Cloud Network? AI ในระบบเครือข่ายไม่ใช่แค่เรื่อง Sci-Fi อีกต่อไป แต่มันเริ่มถูกใช้งานจริงในหลายระบบ เช่น: แล้วคนยังมีบทบาทตรงไหน? AI ยังต้องพึ่งคนในหลายจุด โดยเฉพาะในเรื่องที่ AI ยัง “เข้าใจไม่ลึก” เช่น: สรุป: เสริม หรือ แทน? ข้อเสนอแนะสำหรับองค์กร:

0
Read More

Server Room vs Data Center ต่างกันอย่างไร? ธุรกิจของคุณเหมาะกับอะไร?

ในยุคที่ธุรกิจขับเคลื่อนด้วยข้อมูลและเทคโนโลยี ระบบโครงสร้างพื้นฐานด้านไอทีถือเป็นหัวใจสำคัญที่ต้องวางให้มั่นคง หนึ่งในคำถามยอดฮิตจากผู้ประกอบการคือ: “เราควรใช้แค่ห้อง Server หรือจำเป็นต้องลงทุนกับ Data Center?” บทความนี้จะพาคุณแยกแยะความแตกต่าง พร้อมแนะแนวว่าแบบไหนเหมาะกับธุรกิจคุณมากที่สุด Server Room คืออะไร? Server Room คือห้องขนาดเล็กหรือปานกลางที่ใช้เก็บอุปกรณ์ IT เช่น Server, Switch, Storage และ UPS ซึ่งมักติดตั้งอยู่ภายในสำนักงานขององค์กร คุณสมบัติทั่วไป: ข้อดี: ข้อจำกัด: Data Center คืออะไร? Data Center คือศูนย์กลางข้อมูลขนาดใหญ่ที่ออกแบบมาเพื่อความปลอดภัย ความเสถียร และความสามารถในการรองรับโหลดงานจำนวนมาก เหมาะสำหรับระบบที่ต้องการทำงานต่อเนื่อง 24/7 คุณสมบัติทั่วไป: ข้อดี: ข้อจำกัด: แล้วธุรกิจของคุณควรเลือกอะไร? สรุป หากคุณเพิ่งเริ่มต้น หรือระบบของคุณยังเล็ก Server Room อาจเพียงพอ แต่ถ้าธุรกิจคุณต้องการความต่อเนื่อง เสถียร และปลอดภัยสูงสุดในระยะยาว การลงทุนกับ Data Center หรือใช้บริการ Co-location จะช่วยลดความเสี่ยง และวางรากฐานให้ธุรกิจคุณเติบโตอย่างมั่นคง

0
Read More

5 ปัจจัยสำคัญในการเลือกสถานที่ตั้ง Data Center

การเลือกสถานที่ตั้งของ Data Center ไม่ใช่เรื่องเล็ก ๆ เพราะมีผลโดยตรงต่อความเสถียรของระบบ ความปลอดภัย และต้นทุนการดำเนินงานในระยะยาว หากเลือกพลาด องค์กรอาจต้องแบกรับความเสี่ยงที่ไม่จำเป็นทั้งทางกายภาพและไซเบอร์ บทความนี้จะพาคุณไปเจาะลึก 5 ปัจจัยสำคัญที่ควรพิจารณาเมื่อวางแผนตั้ง Data Center 1. ความมั่นคงของโครงสร้างพื้นฐาน (Infrastructure Reliability) 2. ความปลอดภัยทางกายภาพ (Physical Security) 3. ระยะทางจากผู้ใช้งานและศูนย์กลางธุรกิจ (Proximity to Users and Business Centers) 4. ต้นทุนและภาษี (Cost and Tax Considerations) 5. การขยายตัวและอนาคต (Scalability & Future Proofing) สรุป การเลือกสถานที่ตั้ง Data Center เป็นการตัดสินใจเชิงกลยุทธ์ที่ต้องพิจารณารอบด้าน ทั้งด้านเทคนิค ความปลอดภัย และต้นทุน การวางแผนให้ครอบคลุมตั้งแต่ต้นจะช่วยให้องค์กรสามารถบริหารจัดการระบบ IT ได้อย่างมีประสิทธิภาพ มั่นคง และเติบโตอย่างยั่งยืนในระยะยาว แจกฟรี! Template Checklist การตรวจสอบสถานที่ตั้ง Data Center

0
Read More

เลือกใช้ Tier ของ Data Center อย่างไรให้เหมาะกับธุรกิจ (Tier I – IV)

ในโลกของธุรกิจยุคดิจิทัล Data Center เปรียบเสมือนระบบประสาทขององค์กร ที่ช่วยประมวลผลและจัดเก็บข้อมูลสำคัญ การเลือกใช้ Data Center ที่มีมาตรฐานเหมาะสมกับระดับธุรกิจจึงเป็นเรื่องที่ต้องวางแผนอย่างรอบคอบ ซึ่งหนึ่งในเกณฑ์ที่ใช้กันอย่างแพร่หลายคือ Tier Classification ของ Uptime Institute ซึ่งแบ่งออกเป็น 4 ระดับ (Tier I ถึง Tier IV) ปัจจัยในการเลือก Tier ให้เหมาะกับธุรกิจของคุณ 1. ความสำคัญของระบบ IT ต่อธุรกิจ 2. งบประมาณที่สามารถลงทุนได้ 3. นโยบายความต่อเนื่องทางธุรกิจ (Business Continuity Plan) 4. ความเสี่ยงที่ยอมรับได้ (Risk Tolerance) ตัวอย่างการใช้งานจริง สรุป การเลือก Tier ของ Data Center ไม่ได้มีคำตอบเดียวสำหรับทุกธุรกิจ แต่ควรพิจารณาจาก ระดับความสำคัญของระบบ IT, งบประมาณ, และ ความเสี่ยงที่องค์กรยอมรับได้ หากเลือกได้เหมาะสม จะช่วยเพิ่มความมั่นใจให้กับผู้ใช้บริการ ลดความเสี่ยงทางธุรกิจ และวางรากฐานให้องค์กรเติบโตได้อย่างมั่นคงในยุคดิจิทัล

0
Read More

สร้างห้อง Server ให้สอดคล้องตามมาตรฐาน ISO/IEC 27001:2022 ต้องทำอย่างไร?

ในยุคที่ข้อมูลเป็นทรัพย์สินสำคัญขององค์กร “ห้อง Server” เปรียบเสมือนหัวใจหลักในการเก็บรักษาและประมวลผลข้อมูลสำคัญต่าง ๆ การออกแบบและสร้างห้อง Server ให้สอดคล้องกับมาตรฐานสากล เช่น ISO/IEC 27001:2022 จึงเป็นสิ่งที่จำเป็นสำหรับองค์กรที่ต้องการความมั่นคงปลอดภัยทางสารสนเทศ ISO/IEC 27001:2022 คืออะไร? ISO/IEC 27001:2022 เป็นมาตรฐานระบบบริหารจัดการความมั่นคงปลอดภัยของสารสนเทศ (Information Security Management System – ISMS) ที่ครอบคลุมแนวทางในการประเมินและลดความเสี่ยงที่อาจส่งผลกระทบต่อข้อมูลสำคัญขององค์กร ปัจจัยสำคัญในการสร้างห้อง Server ให้สอดคล้องกับ ISO/IEC 27001:2022 1. การควบคุมการเข้าถึง (Access Control) 2. การป้องกันทางกายภาพ (Physical Security) 3. ระบบควบคุมอุณหภูมิและความชื้น 4. ระบบไฟฟ้าสำรอง (Power Redundancy) 5. ระบบดับเพลิง (Fire Suppression) 6. การบริหารจัดการความเสี่ยง (Risk Assessment) 7. การตรวจสอบและบันทึก (Monitoring and Logging) ประโยชน์ของการสร้างห้อง Server ตาม ISO/IEC 27001:2022 สรุป การสร้างห้อง Server ไม่ได้เป็นเพียงแค่การติดตั้งอุปกรณ์ไอที แต่ต้องรวมถึงการออกแบบระบบความปลอดภัยโดยรวมที่ครอบคลุมทั้งด้านกายภาพและการบริหารจัดการ เพื่อให้สอดคล้องกับมาตรฐาน ISO/IEC 27001:2022 ซึ่งจะช่วยให้องค์กรของคุณมีโครงสร้างพื้นฐานที่มั่นคง ปลอดภัย และพร้อมสำหรับการเติบโตในยุคดิจิทัล หากท่านต้องการสร้างห้อง Server รวมทั้งวางระบบภายในห้อง ท่านสามารถขอใบเสนอราคาได้ตามช่องทางด้านล่างนี้

0
Read More

ทำไมต้องอัปเดตคอมพิวเตอร์ให้เป็น Version ปัจจุบันตลอดเวลา?

1. ความปลอดภัย (Security Updates) การอัปเดตด้านความปลอดภัยคือหัวใจสำคัญที่สุด เพราะ: ช่องโหว่ (Vulnerabilities) ทุกระบบปฏิบัติการมีช่องโหว่เสมอ เช่น buffer overflow, privilege escalation แฮกเกอร์สามารถใช้ช่องโหว่เหล่านี้เพื่อแอบรันโค้ดอันตราย, ขโมยข้อมูล, ล็อกไฟล์คุณเพื่อเรียกค่าไถ่ (ransomware) ตัวอย่างภัยจริง: WannaCry Ransomware (2017):ใช้ช่องโหว่ใน Windows ที่ Microsoft เคยอัปเดตไปแล้ว แต่หลายคนไม่อัป ทำให้โดนกันทั่วโลก ระบบที่ได้รับผล: Windows / macOS / Linux โปรแกรม antivirus, web browser (เช่น Chrome, Firefox), Adobe Reader ฯลฯ 2. แก้ไขข้อผิดพลาด (Bug Fixes) บั๊กในซอฟต์แวร์อาจทำให้ระบบ: ใช้งานผิดปกติ เช่น เปิดโปรแกรมแล้วค้าง, คีย์บอร์ดพิมพ์ไม่ได้, ไฟล์หาย ทำให้สูญเสียข้อมูลโดยไม่ตั้งใจ ตัวอย่างบั๊ก: Excel คำนวณผิดในบางกรณี (เคยเกิดใน Office 2007) macOS เวอร์ชันหนึ่งเคยเปิดสิทธิ์ root โดยไม่ต้องใส่รหัสผ่าน (แก้ด้วย update ทันที) การอัปเดตช่วยลดปัญหาทางเทคนิคที่ไม่คาดคิดและยากต่อการแก้ไขด้วยตัวเอง 3. ปรับปรุงประสิทธิภาพ (Performance Improvements) ทำให้ระบบเร็วขึ้น: ปรับปรุงการจัดการ RAM, CPU ให้มีประสิทธิภาพ ลดโหลดของโปรเซสเบื้องหลัง ปรับเวลา…

0
Read More

การทำ Preventive Maintenance (PM) อุปกรณ์คอมพิวเตอร์

Preventive Maintenance (PM) คือการบำรุงรักษาเชิงป้องกัน เพื่อให้คอมพิวเตอร์และอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้องสามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ลดโอกาสการเสียหาย และยืดอายุการใช้งาน ซึ่งช่วยลดค่าใช้จ่ายในการซ่อมแซมและเพิ่มความปลอดภัยให้กับข้อมูลสำคัญ ขั้นตอนการทำ PM อุปกรณ์คอมพิวเตอร์อย่างละเอียด 🔹 1. การทำความสะอาดฮาร์ดแวร์ ฝุ่นเป็นศัตรูตัวสำคัญของอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ ฝุ่นสามารถอุดตันพัดลม ทำให้เครื่องร้อนขึ้น ส่งผลให้เครื่องมีประสิทธิภาพที่ลดลงหรืออาจจะทำให้เครื่องพังได้ ซึ่งการดูแลฮาร์ดแวร์จากฝุ่นที่เกาะจึงเป็นเรื่องสำคัญจึงสามารถทำตามได้ตามนี้ 1.1 ทำความสะอาดภายนอกคอมพิวเตอร์ 1.2 ทำความสะอาดภายในคอมพิวเตอร์ (สำหรับ PC และ Laptop) 2. การตรวจสอบฮาร์ดแวร์ (Hardware Diagnostics) หลังจากทำความสะอาดฮาร์ดแวร์เสร็จ ควรตรวจสอบว่าส่วนประกอบต่าง ๆ ทำงานปกติหรือไม่ 2.1 ตรวจสอบพัดลมและระบบระบายความร้อน 2.2 ตรวจสอบสุขภาพฮาร์ดดิสก์ (HDD/SSD) 2.3 ตรวจสอบแรม (RAM) 2.4 ตรวจสอบอุปกรณ์ต่อพ่วง 3. การบำรุงรักษาซอฟต์แวร์ (Software Maintenance) นอกจากฮาร์ดแวร์แล้ว ซอฟต์แวร์ก็ต้องได้รับการบำรุงรักษาเป็นประจำ 3.1 ล้างไฟล์ขยะและรีจิสทรี 3.2 อัปเดตระบบปฏิบัติการและไดรเวอร์ 3.3 สแกนไวรัสและมัลแวร์ 3.4 ตรวจสอบโปรแกรม Startup 4. การตรวจสอบระบบเครือข่าย (Network Maintenance) 4.1 ตรวจสอบความเร็วอินเทอร์เน็ต 4.2 รีบูตเราเตอร์และอัปเดตเฟิร์มแวร์ 4.3 เปลี่ยนรหัสผ่าน Wi-Fi เป็นประจำ 5. การตรวจสอบพลังงานและอุปกรณ์ต่อพ่วง 5.1 ตรวจสอบสายไฟและปลั๊กไฟ 5.2 ตรวจสอบ UPS (เครื่องสำรองไฟ)…

0
Read More

Power BI เครื่องมือวิเคราะห์ข้อมูลจากไมโครซอฟท์

ในการทำงานของบริษัท หนึงในงานที่แผนกITจะต้องเจอคือการสรุปข้อมูลต่าง ๆ จากฐานข้อมูลในระบบฐานข้อมูลมาเป็นภาพที่แม้แต่คนทั่วไปสามารถเข้าใจได้ ถึงแม้ในปัจจุบันจะมีหลากหลายโปรแกรมที่สามารถวิเคราะห์ข้อมูลแล้ว แต่ก็มีโปรแกรมวิเคราห์ข้อมูลที่องค์กรณ์เชื่อใจอย่างยาวนาน ก็คือ Microsoft power bi Power BI: จากส่วนเสริม Excel สู่เครื่องมือวิเคราะห์ข้อมูลอันทรงพลัง Power BI เริ่มต้นจาก Power Pivot และ Power Query ใน Microsoft Excel โดยมีแนวคิดริเริ่มจาก Thierry D’Hers และ Amir Netz ภายใต้ทีมพัฒนาระบบรายงานของ Microsoft SQL Server ต่อมา Ron George ได้ออกแบบ Power BI ภายใต้โค้ดเนม Crescent ในช่วงฤดูร้อนปี 2010 และเปิดให้ดาวน์โหลดครั้งแรกเมื่อวันที่ 11 กรกฎาคม 2011 พร้อมกับ SQL Server (โค้ดเนม Denali ) ในเดือนกันยายน 2013 Microsoft ได้เปิดตัว Power BI สำหรับ Office 365 โดยอิงจากส่วนเสริมของ Excel อย่าง Power Query, Power Pivot และ Power View ต่อมามีการเพิ่มฟีเจอร์สำคัญ เช่น Q&A (ถาม-ตอบด้วยภาษาธรรมชาติ), การเชื่อมต่อข้อมูลองค์กร…

0
Read More

ทำไมต้องติดตั้งแอนตี้ไวรัสในคอมพิวเตอร์?

ทำไมต้องติดตั้งแอนตี้ไวรัสในคอมพิวเตอร์? คอมพิวเตอร์เป็นอุปกรณ์ที่มีความเสี่ยงสูงต่อการถูกโจมตีจากไวรัส มัลแวร์ และภัยคุกคามทางไซเบอร์ต่าง ๆ ซึ่งสามารถสร้างความเสียหายได้ทั้งในระดับบุคคลและองค์กร ดังนั้นการติดตั้งโปรแกรมแอนตี้ไวรัสจึงเป็นสิ่งสำคัญเพราะช่วยปกป้องข้อมูลและระบบของคุณจากอันตรายเหล่านี้ 1. ป้องกันไวรัสและมัลแวร์ทุกประเภท ไวรัสคอมพิวเตอร์เป็นโปรแกรมที่สามารถทำซ้ำตัวเองและแพร่กระจายไปยังไฟล์และระบบต่าง ๆ ซึ่งอาจทำให้คอมพิวเตอร์ทำงานผิดปกติหรือข้อมูลสูญหาย มัลแวร์ (Malware) เป็นซอฟต์แวร์ที่ถูกออกแบบมาเพื่อทำลายหรือขโมยข้อมูล เช่น ไวรัส (Virus) – แพร่กระจายไปยังไฟล์หรือซอฟต์แวร์อื่น ๆ และก่อให้เกิดความเสียหาย โทรจัน (Trojan Horse) – แฝงตัวมากับซอฟต์แวร์ที่ดูเหมือนไม่เป็นอันตรายแต่จริง ๆ แล้วมีโค้ดที่เป็นอันตราย เวิร์ม (Worms) – กระจายตัวผ่านเครือข่ายโดยไม่ต้องอาศัยไฟล์ใด ๆ แรนซัมแวร์ (Ransomware) – ล็อกไฟล์หรือระบบแล้วเรียกค่าไถ่ สปายแวร์ (Spyware) – ลอบติดตามพฤติกรรมผู้ใช้และขโมยข้อมูล แอนตี้ไวรัสสามารถสแกน ตรวจจับ และกำจัดมัลแวร์เหล่านี้ได้ 2. ป้องกันฟิชชิ่ง (Phishing) และเว็บไซต์อันตราย ฟิชชิ่งเป็นเทคนิคที่แฮกเกอร์ใช้เพื่อหลอกล่อให้ผู้ใช้เปิดเผยข้อมูลสำคัญ เช่น ชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน หรือข้อมูลบัตรเครดิต โดยมักจะมาในรูปแบบของอีเมลหรือเว็บไซต์ปลอม แอนตี้ไวรัสบางตัวมีฟีเจอร์ป้องกันฟิชชิ่งที่ช่วยตรวจจับและบล็อกเว็บไซต์ที่น่าสงสัยก่อนที่คุณจะเข้าถึง 3. ตรวจจับและลบไฟล์อันตรายจากการดาวน์โหลด เมื่อดาวน์โหลดไฟล์หรือโปรแกรมจากอินเทอร์เน็ต มีโอกาสสูงที่ไฟล์นั้นอาจมีไวรัสแฝงอยู่ แอนตี้ไวรัสสามารถตรวจสอบไฟล์ที่ดาวน์โหลดมาและแจ้งเตือนหากพบสิ่งแปลกปลอม 4. ปกป้องข้อมูลส่วนตัวและธุรกรรมออนไลน์ ปัจจุบันการทำธุรกรรมออนไลน์ เช่น การโอนเงินผ่านอินเทอร์เน็ตแบงก์กิ้ง หรือการใช้บัตรเครดิตในการซื้อสินค้าออนไลน์ เป็นเรื่องปกติ แฮกเกอร์มักใช้มัลแวร์ประเภทคีย์ล็อกเกอร์ (Keylogger) เพื่อบันทึกการกดแป้นพิมพ์ของคุณ และนำข้อมูลไปใช้ในทางที่ผิด แอนตี้ไวรัสที่มีฟีเจอร์ป้องกันข้อมูลส่วนตัวจะช่วยป้องกันการขโมยข้อมูลสำคัญของคุณ 5. ป้องกันการโจมตีจากแฮกเกอร์ (Hacking & Exploits Protection) แฮกเกอร์อาจใช้ช่องโหว่ของระบบปฏิบัติการหรือซอฟต์แวร์เพื่อแฮ็กเข้าสู่คอมพิวเตอร์ของคุณ…

0
Read More
Contact Us

บริษัท ไอ ที บี ที คอร์ปอเรชั่น จำกัด
ที่อยู่ : 170/372 หมู่ 1 ตำบลบางคูวัด
อำเภอเมืองปทุมธานี จังหวัดปทุมธานี 12000
Tel/Fax : 02-1014461
Hotline 24 ชม. : 091-7598087
Email 1 : service@itbtthai.com
Email 2 : itbtthai@gmail.com
Line ID : @itbtthai (มี @ ด้านหน้า)
Fanpage : ITBT Technology Solutions System

office hours

วันทำการ : จันทร์ – ศุกร์
(เว้นวันหยุดเสาร์-อาทิตย์ และนักขัตฤกษ์)
เวลาทำการ : 08:30 – 17:30 น.

DBD Registered

Copyright 2020 © ITBT Corporation Co., Ltd. All Rights Reserved.

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

Allow All
Manage Consent Preferences
  • Always Active

Save