ทุกวันนี้เราเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตแทบตลอดเวลา ไม่ว่าจะผ่าน Wi-Fi ในที่ทำงาน โรงเรียน มหาวิทยาลัย หรือร้านกาแฟ แต่เคยสงสัยกันไหมว่าในเครือข่ายที่มีผู้ใช้นับร้อยนับพันพร้อมกัน ทำไมระบบถึงยังทำงานได้เป็นระเบียบ ปลอดภัย และไม่มั่วกันไปหมด? หนึ่งในเทคโนโลยีเบื้องหลังความเป็นระเบียบนั้นก็คือ VLAN (Virtual LAN)
VLAN คืออะไร?
VLAN ย่อมาจาก Virtual Local Area Network หรือ “เครือข่ายท้องถิ่นเสมือน” พูดง่าย ๆ มันคือ การแบ่งเครือข่ายใหญ่ให้เป็นเครือข่ายย่อย ๆ โดยไม่ต้องไปซื้ออุปกรณ์เพิ่มหรือต่อสายแยกใหม่
ลองจินตนาการง่าย ๆ
- บริษัทมีพนักงานหลายฝ่าย เช่น ฝ่ายบัญชี ฝ่ายขาย ฝ่ายไอที
- ทุกคนเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตผ่านสวิตช์ตัวเดียวหรือ Wi-Fi ตัวเดียว
- ถ้าไม่มีการแบ่ง ทุกคนก็จะอยู่บน “ถนนเส้นเดียวกัน” รถเยอะ การจราจรก็ติด และอาจมีคนมองเห็นข้อมูลของกันและกันได้
แต่เมื่อใช้ VLAN ก็เหมือน สร้างถนนเส้นย่อยขึ้นมาในเครือข่ายเดียวกัน ข้อมูลของแต่ละฝ่ายจะถูกแยกไปตามเส้นทางของตัวเอง ไม่ปะปนกัน → ได้ทั้งความปลอดภัย ความเร็ว และการจัดการที่ง่ายขึ้น
ทำไมต้องใช้ VLAN?
ถ้าลองมองในชีวิตจริง เราจะเห็นประโยชน์ของ VLAN ได้ชัดเจนขึ้น เช่น
- เพิ่มความปลอดภัย ข้อมูลบางอย่าง เช่น บัญชีเงินเดือน ข้อมูลลูกค้า หรือผลการรักษาผู้ป่วย ไม่ควรให้ใครเข้าถึงได้ง่าย ๆ VLAN ช่วยแยกเครือข่ายออกไปเป็นสัดส่วน ทำให้เฉพาะกลุ่มที่ได้รับอนุญาตเท่านั้นที่เข้าถึงได้
- ลดความแออัดของเครือข่าย เหมือนบนถนน ถ้ามีรถเยอะ ๆ แล้วไม่มีการจัดการ การจราจรก็จะติด VLAN ช่วยกระจายการจราจรข้อมูล ทำให้ใช้งานอินเทอร์เน็ตได้ลื่นขึ้น
- การจัดการง่ายขึ้น ผู้ดูแลระบบสามารถกำหนดนโยบายแยกกันชัดเจน เช่น VLAN ของนักเรียนเข้าได้เฉพาะเว็บไซต์การศึกษา, VLAN ของพนักงานขายใช้เครื่องพิมพ์กลางได้, ส่วน VLAN ของผู้บริหารเข้าถึงไฟล์สำคัญได้
- ความยืดหยุ่น ถึงแม้คนในฝ่ายเดียวกันจะนั่งอยู่ต่างชั้น ต่างตึก ก็ยังจัดให้อยู่ VLAN เดียวกันได้ง่าย ๆ ไม่ต้องลากสายใหม่หรือซื้ออุปกรณ์เพิ่ม
ตัวอย่างการใช้ VLAN ใกล้ตัว
- มหาวิทยาลัย
แบ่งเครือข่ายสำหรับนักศึกษา อาจารย์ เจ้าหน้าที่ และห้องแล็บ แต่ละกลุ่มจะมีสิทธิ์ในการใช้งานต่างกัน - โรงพยาบาล
แพทย์ใช้ระบบบันทึกเวชระเบียน, พยาบาลเข้าถึงข้อมูลการรักษา, ผู้ป่วยใช้ Wi-Fi ทั่วไป ทั้งหมดนี้ถูกจัดแยกออกจากกันด้วย VLAN เพื่อความปลอดภัย - สำนักงานทั่วไป
ฝ่ายการเงินถูกแยกจากฝ่ายขายเพื่อป้องกันข้อมูลสำคัญรั่วไหล แต่ทุกฝ่ายยังแชร์อินเทอร์เน็ตและเครื่องพิมพ์ร่วมกันได้
VLAN ทำงานอย่างไร ?
จริงๆ แล้ว VLAN ทำงานอยู่บนอุปกรณ์เครือข่าย เช่น Switch หรือ Router ซึ่งจะกำหนดว่า “พอร์ตไหนอยู่ VLAN ไหน” หรือ “Wi-Fi SSID ไหนอยู่ใน VLAN ไหน”
ยกตัวอย่างเช่น
- Port 1–5 ของ Switch → VLAN สำหรับฝ่ายบัญชี
- Port 6–10 → VLAN สำหรับฝ่ายขาย
- Wi-Fi SSID ชื่อ “Staff” → VLAN สำหรับพนักงาน
- Wi-Fi SSID ชื่อ “Guest” → VLAN สำหรับลูกค้า
ถึงแม้ทุกอย่างจะต่อเข้ามาที่ Switch หรือ Access Point ตัวเดียวกัน แต่ภายในจะถูกแบ่งออกเป็น “ห้องเสมือน” คนละห้อง ข้อมูลก็ไม่ไหลข้ามไปมา
ทำไมบุคคลทั่วไปควรรู้จัก VLAN
คุณอาจไม่ได้เป็นผู้ดูแลระบบ แต่การรู้จัก VLAN ทำให้เราเข้าใจโลกออนไลน์รอบตัวได้มากขึ้น เช่น
- เข้าใจว่าทำไม Wi-Fi “Guest” กับ “Staff” ถึงใช้งานไม่เหมือนกัน
- เวลาเน็ตในองค์กรช้า อาจเป็นเพราะ VLAN หนึ่ง ๆ มีคนใช้งานหนักเกินไป
- รู้ว่าข้อมูลส่วนตัวถูกปกป้องอย่างไรในองค์กรใหญ่ ๆ
พูดได้ว่า VLAN คือ ตัวช่วยจัดระเบียบโลกดิจิทัล ที่เราใช้งานทุกวันโดยไม่รู้ตัว
สรุป
VLAN คือการแบ่งเครือข่ายใหญ่ให้เป็นเครือข่ายย่อย ๆ เสมือนจริง เพื่อเพิ่มความปลอดภัย ลดความแออัด และทำให้การจัดการง่ายขึ้น โดยไม่จำเป็นต้องซื้ออุปกรณ์เพิ่มหรือแยกเครือข่ายจริง ๆ
ในยุคที่ทุกองค์กรและสถานศึกษาต้องการทั้ง ประสิทธิภาพ ความเร็ว และความปลอดภัย VLAN จึงกลายเป็นหนึ่งในเทคโนโลยีพื้นฐานที่ขาดไม่ได้เลย
อ่านบทความเพิ่มเติมได้ที่ : https://www.itbtthai.com/category/itbt-activities/
เรียบเรียงโดย : บรรพต ทองวิจิตร