การบริหารจัดการ Firewall และ Access Control เป็นองค์ประกอบสำคัญในการรักษาความมั่นคงปลอดภัยของระบบเครือข่ายและโครงสร้างพื้นฐานด้าน IT ขององค์กร การกำหนดนโยบายที่ชัดเจนและการควบคุมสิทธิ์การเข้าถึงอย่างเหมาะสมสามารถลดความเสี่ยงจากภัยคุกคามภายนอกและภายในได้อย่างมีประสิทธิภาพ

แนวทางการตั้งค่า Firewall Policy

การตั้งค่า Firewall Policy ควรยึดหลัก “ปฏิเสธโดยค่าเริ่มต้น” (Default Deny) ซึ่งหมายถึงการบล็อกการเชื่อมต่อทั้งหมดก่อน แล้วจึงอนุญาตเฉพาะการเชื่อมต่อที่จำเป็นเท่านั้น โดยมีแนวทางดังต่อไปนี้

  • การกำหนดกฎการเข้าถึง (Access Rules): ควรระบุเงื่อนไขให้ชัดเจน เช่น IP ต้นทางและปลายทาง, Protocol, Port และ Interface ที่เกี่ยวข้อง โดยแยกกฎตามโซนเครือข่าย เช่น LAN, WAN, DMZ เพื่อควบคุมการเข้าถึงระหว่างเครือข่ายอย่างมีระบบ
  • การจัดลำดับความสำคัญของกฎ (Rule Priority): Firewall จะประมวลผลกฎตามลำดับที่กำหนดไว้ ดังนั้นควรจัดลำดับให้กฎที่มีความเฉพาะเจาะจงอยู่ก่อนกฎที่มีเงื่อนไขกว้าง
  • การจัดการ Inbound และ Outbound Traffic: สำหรับ Inbound Traffic ควรอนุญาตเฉพาะบริการที่จำเป็น เช่น HTTPS (TCP 443), VPN (UDP 500) ส่วน Outbound Traffic ควรควบคุมการออกจากระบบ เช่น อนุญาตเฉพาะแอปพลิเคชันที่ต้องเชื่อมต่อภายนอก
  • การบันทึกและวิเคราะห์ Log: ควรเปิดใช้งานการบันทึก Log สำหรับกฎที่สำคัญ เพื่อใช้ในการตรวจสอบเหตุการณ์และวิเคราะห์พฤติกรรมที่ผิดปกติ เช่น การสแกนพอร์ตหรือการเชื่อมต่อที่ไม่ได้รับอนุญาต

แนวทางการตั้งค่า Access Control

การควบคุมสิทธิ์การเข้าถึงระบบควรดำเนินการตามหลักการ “สิทธิ์น้อยที่สุด” (Least Privilege) และ “การควบคุมตามบทบาท” (Role-Based Access Control: RBAC) เพื่อป้องกันการเข้าถึงโดยไม่ได้รับอนุญาต โดยมีแนวทางดังนี้

  • การกำหนดสิทธิ์ตามบทบาท: ควรแบ่งกลุ่มผู้ใช้งานตามหน้าที่ เช่น Network Administrator, Helpdesk, Auditor และกำหนดสิทธิ์เฉพาะที่จำเป็นต่อการปฏิบัติงาน
  • การใช้ Multi-Factor Authentication (MFA): เพิ่มชั้นความปลอดภัยในการเข้าถึงระบบ โดยใช้การยืนยันตัวตนมากกว่าหนึ่งปัจจัย เช่น รหัสผ่านร่วมกับ OTP หรือการยืนยันผ่านอุปกรณ์มือถือ
  • การจำกัดช่วงเวลาและเงื่อนไขการเข้าถึง: สามารถกำหนดให้เข้าถึงระบบได้เฉพาะช่วงเวลาทำงาน หรือจาก IP Address ที่ได้รับอนุญาตเท่านั้น เพื่อป้องกันการเข้าถึงจากแหล่งที่ไม่ปลอดภัย
  • การจัดการบัญชีผู้ใช้งาน: ควรมีการตรวจสอบบัญชีผู้ใช้งานอย่างสม่ำเสมอ ยกเลิกบัญชีที่ไม่ใช้งาน และเปลี่ยนรหัสผ่านตามรอบระยะเวลาที่กำหนด

เครื่องมือที่แนะนำ

การตั้งค่า Firewall Policy และ Access Control อย่างปลอดภัยสามารถดำเนินการผ่านเครื่องมือและระบบที่หลากหลาย เช่น

  • FortiGate Firewall: สำหรับการกำหนด Policy และการจัดการ Log อย่างละเอียด
  • Active Directory ร่วมกับ Group Policy: สำหรับการควบคุมสิทธิ์การเข้าถึงในระบบ Windows
  • SIEM Tools เช่น Wazuh หรือ Splunk: สำหรับการรวบรวมและวิเคราะห์ข้อมูล Log จากหลายแหล่ง
  • Monitoring Tools เช่น Zabbix หรือ Grafana: สำหรับการติดตามสถานะของระบบเครือข่ายและเซิร์ฟเวอร์

ข้อควรระวังและแนวทางการตรวจสอบ

  • ควรทดสอบกฎ Firewall ในสภาพแวดล้อมจำลองก่อนนำไปใช้จริง เพื่อป้องกันผลกระทบต่อระบบ
  • ตรวจสอบ Log และ Alert อย่างสม่ำเสมอ เพื่อค้นหาพฤติกรรมที่ผิดปกติ
  • จัดทำ Audit Trail และรายงานการเข้าถึง เพื่อใช้ในการตรวจสอบย้อนหลังและการประเมินความปลอดภัย

การตั้งค่า Firewall Policy และ Access Control อย่างปลอดภัยไม่ใช่เพียงการกำหนดกฎเท่านั้น แต่เป็นกระบวนการที่ต้องอาศัยความเข้าใจในโครงสร้างเครือข่าย ความเสี่ยง และพฤติกรรมของผู้ใช้งาน เพื่อสร้างระบบที่มั่นคงปลอดภัยและสามารถรองรับการเติบโตขององค์กรได้อย่างยั่งยืน


อ่านบทความเพิ่มเติมที่ :  https://www.itbtthai.com/category/itbt-activities/

เรียบเรียงโดย : จิราพร เผื่อแผ่