Agentic AI คือ ปัญญาประดิษฐ์ (AI) รูปแบบใหม่ ที่ได้รับการพัฒนาให้มีความสามารถมากกว่า AI แบบดั้งเดิมที่ทำหน้าที่เพียงตอบคำถามหรือรอรับคำสั่ง (Reactive)

จุดเด่นของ Agentic AI คือความสามารถในการทำงานเชิงรุก (Proactive) และขับเคลื่อนด้วยเป้าหมาย (Goal-driven) โดยสามารถ คิด วิเคราะห์ วางแผน และลงมือปฏิบัติการ (Action) ได้ด้วยตนเอง อย่างเป็นอิสระ เพื่อให้บรรลุเป้าหมายที่กำหนดไว้

ตารางการเปรียบเทียบกับ AI ประเภทอื่น

กระบวนการทำงาน (Workflow)

Agentic AI ทำงานเป็นวงจร (Loop) ต่อเนื่องและเรียนรู้ได้เอง โดยมีกระบวนการหลักดังนี้

  1. การรับข้อมูล (Perception & Input): รวบรวมและดึงข้อมูลจากหลายแหล่งที่กระจัดกระจาย เช่น ระบบ CRM, Social Media, หรือฐานข้อมูลภายใน
  2. การวิเคราะห์ (Reasoning): ประมวลผลข้อมูลเพื่อทำความเข้าใจ ค้นหาความสัมพันธ์ หรือ Insight ที่ซ่อนอยู่
  3. การกำหนดเป้าหมาย (Goal Setting): แปลงข้อมูลเชิงลึกที่ได้มาเป็นเป้าหมายเชิงกลยุทธ์ที่ชัดเจน
  4. การวางแผน (Planning): สร้างแผนการดำเนินงานแบบทีละขั้นตอน (Step-by-step) เพื่อให้บรรลุเป้าหมาย
  5. การลงมือทำ (Action): ดำเนินการตามแผนที่วางไว้โดยอัตโนมัติ เช่น การปรับเปลี่ยนแคมเปญการตลาด หรือส่งคำสั่งไปยังระบบอื่นผ่าน API
  6. การประเมินและเรียนรู้ (Feedback & Learning): ตรวจสอบผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นเทียบกับเป้าหมาย และนำข้อผิดพลาดหรือความสำเร็จมาปรับปรุงการทำงานในรอบถัดไป

คุณสมบัติและความสามารถหลัก

  • กำหนดเป้าหมายและหาวิธีบรรลุได้เอง โดยไม่ต้องรอคำสั่งมนุษย์ในทุกขั้นตอน
  • วางแผนและดำเนินงาน ที่ซับซ้อนแบบต่อเนื่องได้
  • ประมวลผลข้อมูลจากหลายระบบ พร้อมกันเพื่อการตัดสินใจที่แม่นยำ
  • ให้ข้อเสนอแนะเชิงกลยุทธ์ ที่อ้างอิงจากข้อมูลจริง (Data-driven)
  • ตรวจจับรูปแบบและแนวโน้ม ที่มีความซับซ้อนสูง ซึ่งมนุษย์อาจมองข้าม
  • สร้างประสบการณ์เฉพาะบุคคล (Personalization) ให้กับลูกค้าตามพฤติกรรม
  • เชื่อมต่อและสื่อสาร กับซอฟต์แวร์อื่นเพื่อสั่งการได้อัตโนมัติ

ประโยชน์หลักต่อองค์กร (Key Benefits)

  • เพิ่มความรวดเร็ว (Speed): ตอบสนองต่อการเปลี่ยนแปลงของตลาดได้แบบเรียลไทม์
  • ยกระดับความแม่นยำ (Accuracy): ตัดสินใจบนพื้นฐานของข้อมูลที่ครอบคลุม ลดความผิดพลาด
  • การวางกลยุทธ์เชิงรุก (Proactive Strategy): ช่วยให้องค์กรเห็นโอกาสใหม่ๆ ก่อนคู่แข่ง
  • ลดภาระงานซ้ำซ้อน (Reduce Repetitive Work): ช่วยให้บุคลากรหันไปมุ่งเน้นงานเชิงกลยุทธ์และความคิดสร้างสรรค์
  • ลดความเสี่ยงในการคาดเดา (Reduce Guesswork): ทุกข้อเสนอแนะมีที่มาจากข้อมูลที่ตรวจสอบได้
  • เข้าถึงข้อมูลแบบองค์รวม (Holistic View): รวมข้อมูลที่กระจัดกระจายมาไว้ในที่เดียวเพื่อการวิเคราะห์ที่สมบูรณ์

บทสรุป

Agentic AI คือเทคโนโลยีสำคัญที่ช่วยเปลี่ยนข้อมูลดิบ (Data) ที่กระจัดกระจาย ให้กลายเป็น กลยุทธ์ทางธุรกิจที่ชัดเจนและนำไปปฏิบัติได้จริง (Actionable Strategy) ช่วยเพิ่มความเร็ว ความแม่นยำ และประสิทธิภาพในการตัดสินใจเชิงธุรกิจได้อย่างมีนัยสำคัญ


ที่มา : https://wisesight.com/

อ่านบทความเพิ่มเติมที่ :  https://www.itbtthai.com/category/itbt-activities/

เรียบเรียงโดย : ณฐพงศ์ กลัดพรหม