Network

การตั้งค่า Firewall Policy และ Access Control อย่างไรให้ปลอดภัย?

การบริหารจัดการ Firewall และ Access Control เป็นองค์ประกอบสำคัญในการรักษาความมั่นคงปลอดภัยของระบบเครือข่ายและโครงสร้างพื้นฐานด้าน IT ขององค์กร การกำหนดนโยบายที่ชัดเจนและการควบคุมสิทธิ์การเข้าถึงอย่างเหมาะสมสามารถลดความเสี่ยงจากภัยคุกคามภายนอกและภายในได้อย่างมีประสิทธิภาพ แนวทางการตั้งค่า Firewall Policy การตั้งค่า Firewall Policy ควรยึดหลัก “ปฏิเสธโดยค่าเริ่มต้น” (Default Deny) ซึ่งหมายถึงการบล็อกการเชื่อมต่อทั้งหมดก่อน แล้วจึงอนุญาตเฉพาะการเชื่อมต่อที่จำเป็นเท่านั้น โดยมีแนวทางดังต่อไปนี้ แนวทางการตั้งค่า Access Control การควบคุมสิทธิ์การเข้าถึงระบบควรดำเนินการตามหลักการ “สิทธิ์น้อยที่สุด” (Least Privilege) และ “การควบคุมตามบทบาท” (Role-Based Access Control: RBAC) เพื่อป้องกันการเข้าถึงโดยไม่ได้รับอนุญาต โดยมีแนวทางดังนี้ เครื่องมือที่แนะนำ การตั้งค่า Firewall Policy และ Access Control อย่างปลอดภัยสามารถดำเนินการผ่านเครื่องมือและระบบที่หลากหลาย เช่น ข้อควรระวังและแนวทางการตรวจสอบ การตั้งค่า Firewall Policy และ Access Control อย่างปลอดภัยไม่ใช่เพียงการกำหนดกฎเท่านั้น แต่เป็นกระบวนการที่ต้องอาศัยความเข้าใจในโครงสร้างเครือข่าย ความเสี่ยง และพฤติกรรมของผู้ใช้งาน เพื่อสร้างระบบที่มั่นคงปลอดภัยและสามารถรองรับการเติบโตขององค์กรได้อย่างยั่งยืน อ่านบทความเพิ่มเติมที่ :  https://www.itbtthai.com/category/itbt-activities/ เรียบเรียงโดย : จิราพร เผื่อแผ่

0
Read More

IDS/IPS แตกต่างกันยังไง? ระบบตรวจจับภัยในเครือข่าย

ในยุคที่ภัยคุกคามทางไซเบอร์มีความซับซ้อนและเกิดขึ้นตลอดเวลา การรักษาความปลอดภัยของระบบเครือข่ายจึงไม่ใช่แค่การ “ป้องกัน” แต่ต้อง “ตรวจจับและตอบสนอง” ได้อย่างทันท่วงที หนึ่งในเครื่องมือสำคัญของการรักษาความปลอดภัยเครือข่ายก็คือ IDS (Intrusion Detection System) และ IPS (Intrusion Prevention System) ซึ่งแม้ชื่อจะคล้ายกัน แต่บทบาทและหน้าที่กลับแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญ IDS (Intrusion Detection System) คืออะไร? IDS คือ “ระบบตรวจจับการบุกรุก” (Intrusion Detection System) ทำหน้าที่ เฝ้าระวังและตรวจสอบทราฟฟิกในเครือข่าย เพื่อหาพฤติกรรมที่น่าสงสัยหรือผิดปกติ เช่น เมื่อ IDS ตรวจพบความผิดปกติ มันจะ แจ้งเตือน (Alert) ไปยังผู้ดูแลระบบ เพื่อให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบและดำเนินการต่อไป เปรียบเทียบให้เห็นภาพ: IDS ทำหน้าที่เหมือน “ยามเฝ้าประตู” ที่คอยจับตาความเคลื่อนไหว และแจ้งเตือนเมื่อพบสิ่งผิดปกติ แต่ไม่สามารถหยุดผู้บุกรุกได้เอง IPS (Intrusion Prevention System) คืออะไร? IPS หรือ “ระบบป้องกันการบุกรุก” (Intrusion Prevention System) เป็นระบบที่พัฒนามาจาก IDS โดยนอกจากตรวจจับภัยแล้ว ยังสามารถ ตอบสนองและป้องกันการโจมตีได้โดยอัตโนมัติ เช่น IPS มักถูกติดตั้ง แบบ Inline (อยู่ในเส้นทางของข้อมูลจริง) เพื่อให้สามารถสกัดกั้นภัยได้ทันที เปรียบเทียบให้เห็นภาพ : IPS คือ “ยามรักษาความปลอดภัยพร้อมอาวุธ” ที่ไม่เพียงแต่รายงาน แต่ยังสามารถจัดการผู้บุกรุกได้ทันที สรุปความแตกต่างระหว่าง IDS…

0
Read More

Zero Trust Network: ความปลอดภัยแบบใหม่ที่ทุกองค์กรควรรู้

ในสภาพแวดล้อมดิจิทัลปัจจุบัน องค์กรต่างๆ ต้องเผชิญกับภัยคุกคามทางไซเบอร์ที่ซับซ้อนมากขึ้น ทั้งจากผู้ไม่หวังดีภายนอกและความเสี่ยงภายในองค์กรเอง โมเดลการรักษาความปลอดภัยแบบดั้งเดิมซึ่งอาศัยการสร้าง “ขอบเขตเครือข่าย” (Perimeter Security) และเชื่อว่าทุกสิ่งภายในเครือข่ายสามารถเชื่อถือได้ (Trust but Verify) จึงไม่เพียงพออีกต่อไป แนวคิด Zero Trust Network หรือ Zero Trust Security จึงเกิดขึ้น โดยมีหลักการสำคัญคือ “Never Trust, Always Verify” หมายถึง ไม่เชื่อถือผู้ใช้หรืออุปกรณ์ใดโดยอัตโนมัติ ไม่ว่าจะอยู่ภายในหรือนอกเครือข่ายองค์กรก็ตาม หลักการของ Zero Trust โมเดล Zero Trust อาศัยองค์ประกอบสำคัญดังนี้ ข้อดีของการประยุกต์ใช้ Zero Trust ตัวอย่างการนำไปใช้ในองค์กร สรุป Zero Trust Network เป็นแนวทางด้านความปลอดภัยที่เหมาะสมกับยุคที่เครือข่ายไร้ขอบเขตและเต็มไปด้วยความเสี่ยงจากทั้งภายนอกและภายใน องค์กรที่นำแนวคิดนี้ไปประยุกต์ใช้ จะสามารถยกระดับการป้องกันภัยไซเบอร์ ลดผลกระทบจากการโจมตี และสร้างความมั่นใจในการดำเนินธุรกิจได้อย่างยั่งยืน อ่านบทความเพิ่มเติมที่ :  https://www.itbtthai.com/category/itbt-activities/ เรียบเรียงโดย : อลิตา จันทร์เพ็ชร

0
Read More

VLAN คืออะไร? ทำไมถึงสำคัญกับเครือข่ายยุคใหม่

ทุกวันนี้เราเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตแทบตลอดเวลา ไม่ว่าจะผ่าน Wi-Fi ในที่ทำงาน โรงเรียน มหาวิทยาลัย หรือร้านกาแฟ แต่เคยสงสัยกันไหมว่าในเครือข่ายที่มีผู้ใช้นับร้อยนับพันพร้อมกัน ทำไมระบบถึงยังทำงานได้เป็นระเบียบ ปลอดภัย และไม่มั่วกันไปหมด? หนึ่งในเทคโนโลยีเบื้องหลังความเป็นระเบียบนั้นก็คือ VLAN (Virtual LAN) VLAN คืออะไร? VLAN ย่อมาจาก Virtual Local Area Network หรือ “เครือข่ายท้องถิ่นเสมือน” พูดง่าย ๆ มันคือ การแบ่งเครือข่ายใหญ่ให้เป็นเครือข่ายย่อย ๆ โดยไม่ต้องไปซื้ออุปกรณ์เพิ่มหรือต่อสายแยกใหม่ ลองจินตนาการง่าย ๆ แต่เมื่อใช้ VLAN ก็เหมือน สร้างถนนเส้นย่อยขึ้นมาในเครือข่ายเดียวกัน ข้อมูลของแต่ละฝ่ายจะถูกแยกไปตามเส้นทางของตัวเอง ไม่ปะปนกัน → ได้ทั้งความปลอดภัย ความเร็ว และการจัดการที่ง่ายขึ้น ทำไมต้องใช้ VLAN? ถ้าลองมองในชีวิตจริง เราจะเห็นประโยชน์ของ VLAN ได้ชัดเจนขึ้น เช่น ตัวอย่างการใช้ VLAN ใกล้ตัว VLAN ทำงานอย่างไร ? จริงๆ แล้ว VLAN ทำงานอยู่บนอุปกรณ์เครือข่าย เช่น Switch หรือ Router ซึ่งจะกำหนดว่า “พอร์ตไหนอยู่ VLAN ไหน” หรือ “Wi-Fi SSID ไหนอยู่ใน VLAN ไหน” ยกตัวอย่างเช่น ถึงแม้ทุกอย่างจะต่อเข้ามาที่ Switch หรือ Access Point…

0
Read More

Server Virtualization และ Containerization หัวใจของ Infrastructure สมัยใหม่

ในยุคดิจิทัลที่ธุรกิจต้องการความเร็ว ความยืดหยุ่น และการปรับขยายระบบได้อย่างรวดเร็ว การจัดการ Infrastructure แบบดั้งเดิมที่ใช้ Physical Server เพียงอย่างเดียวไม่เพียงพออีกต่อไป เทคโนโลยี Virtualization และ Containerization จึงเข้ามามีบทบาทสำคัญในการยกระดับการทำงานของ Data Center และ Cloud Server Virtualization คืออะไร? Server Virtualization คือการแบ่งทรัพยากรของ Physical Server (เครื่องจริง) ออกเป็น Virtual Machine (VM) หลาย ๆ เครื่อง โดยแต่ละ VM สามารถทำงานเป็นเซิร์ฟเวอร์อิสระ มี OS, Application และ Resource ของตัวเอง 🔹 จุดเด่นของ Virtualization เครื่องมือยอดนิยม : VMware vSphere, Microsoft Hyper-V, KVM Containerization คืออะไร? Containerization เป็นการนำ Application และ Dependencies (Library, Runtime) ใส่ไว้ใน Container ที่สามารถรันได้ทุกที่ โดยไม่ต้องสร้าง OS แยกเหมือน VM 🔹 จุดเด่นของ Containerization เครื่องมือยอดนิยม: Docker, Kubernetes, OpenShift ความแตกต่างระหว่าง Virtualization และ Containerization…

0
Read More

Network Topology คืออะไร? ทำความรู้จักรูปแบบการเชื่อมต่อเครือข่ายที่คุณควรรู้

เมื่อพูดถึงการสร้างระบบเครือข่าย สิ่งหนึ่งที่ขาดไม่ได้คือ Topology (โทโพโลยีเครือข่าย) หรือ “รูปแบบการเชื่อมต่อ” ของอุปกรณ์ต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นคอมพิวเตอร์ สวิตช์ เราเตอร์ หรืออุปกรณ์เครือข่ายอื่น ๆ เพราะ Topology มีผลต่อความเร็ว ความเสถียร ความน่าเชื่อถือ และต้นทุนของระบบโดยตรง Topology แบ่งออกเป็น 2 มิติหลัก ๆ ได้แก่ การเข้าใจและเลือกใช้ Topology ที่เหมาะสมจึงเป็นพื้นฐานสำคัญในการออกแบบเครือข่ายให้มีประสิทธิภาพ ประเภทของ Network Topology 1. Bus Topology การเชื่อมต่ออุปกรณ์ทุกตัวเข้ากับสายหลักเส้นเดียว (Backbone) 2. Star Topology ทุกอุปกรณ์เชื่อมต่อเข้ากับอุปกรณ์กลาง เช่น สวิตช์หรือฮับ 3. Ring Topology อุปกรณ์ถูกเชื่อมต่อเป็นวงแหวน ข้อมูลวิ่งวนไปทีละเครื่อง 4. Mesh Topology ทุกอุปกรณ์เชื่อมต่อกันโดยตรง (Full Mesh) หรือบางส่วน (Partial Mesh) 5. Tree Topology (Hierarchical) โครงสร้างแบบลำดับชั้น คล้ายต้นไม้ ผสมผสาน Star หลายระดับ 6. Hybrid Topology การผสมผสานหลายรูปแบบ เช่น Star-Bus หรือ Star-Ring บทสรุป ในปัจจุบัน Star Topology เป็นรูปแบบที่นิยมใช้มากที่สุด โดยเฉพาะในเครือข่าย LAN…

0
Read More

การใช้ AI/ML ในการตรวจจับและป้องกันภัยคุกคามเครือข่าย

ปัจจุบันภัยคุกคามทางไซเบอร์มีความซับซ้อนและปรับเปลี่ยนอย่างรวดเร็ว การอาศัยวิธีการแบบดั้งเดิมเพียงอย่างเดียวอาจไม่เพียงพอ ปัญญาประดิษฐ์ (Artificial Intelligence: AI) และ การเรียนรู้ของเครื่อง (Machine Learning: ML) จึงถูกนำมาใช้เป็นกลไกสำคัญในการตรวจจับและป้องกันภัยคุกคามเครือข่าย โดยช่วยให้การป้องกันมีความแม่นยำ รวดเร็ว และทำงานได้แบบอัตโนมัติ บทบาทของ AI/ML ในความปลอดภัยเครือข่าย 1. การตรวจจับและวิเคราะห์ภัยคุกคามอัตโนมัติ AI/ML สามารถวิเคราะห์ข้อมูลจำนวนมากแบบเรียลไทม์ เพื่อค้นหาพฤติกรรมหรือรูปแบบที่ผิดปกติ เช่น การบุกรุก ไวรัสคอมพิวเตอร์ หรือร่องรอยของมัลแวร์ที่ระบบดั้งเดิมอาจมองไม่เห็น 2. การพยากรณ์และประเมินความเสี่ยง ด้วยการใช้ข้อมูลในอดีต AI/ML สามารถคาดการณ์แนวโน้มภัยคุกคามล่วงหน้า และจัดลำดับความสำคัญในการวางมาตรการป้องกัน ช่วยให้องค์กรบริหารจัดการความเสี่ยงได้อย่างมีประสิทธิภาพ 3. การตอบสนองต่อเหตุการณ์ (Incident Response) ระบบที่ขับเคลื่อนด้วย AI สามารถดำเนินการตอบสนองเบื้องต้นได้โดยอัตโนมัติ เช่น แยกเครื่องที่ติดมัลแวร์ กักกันภัยคุกคาม และแจ้งเตือนผู้ดูแลระบบ เพื่อลดระยะเวลาและผลกระทบจากการโจมตี 4. การรับมือกับฟิชชิ่งและวิศวกรรมสังคม AI/ML สามารถตรวจจับข้อความหรืออีเมลที่น่าสงสัย และวิเคราะห์พฤติกรรมของผู้ใช้เพื่อหาความผิดปกติ เช่น การเข้าสู่ระบบจากสถานที่ผิดปกติ หรือการขอเข้าถึงข้อมูลที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน ซึ่งเป็นสัญญาณของการโจมตีทางสังคมออนไลน์ 5. การจัดการความปลอดภัยด้วยข้อมูลขนาดใหญ่ (Big Data Analytics) ด้วยการประมวลผลข้อมูลจากหลายแหล่ง เช่น บันทึกเครือข่าย การใช้งานระบบ และกิจกรรมของผู้ใช้ AI/ML สามารถสร้างมุมมองที่ครบถ้วนและแม่นยำในการตรวจจับภัยคุกคาม ช่วยให้องค์กรสร้างกลยุทธ์การป้องกันหลายชั้น (Multi-layer Defense) ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ตารางข้อดี–ข้อเสียการใช้ AI/ML ในการตรวจจับและป้องกันภัยคุกคามเครือข่าย ข้อจำกัดของ AI/ML บทสรุป AI และ ML…

0
Read More

5G Network Slicing: ทำไมจึงเป็นกุญแจสำคัญของ IoT และ Smart City

เมื่อพูดถึง 5G หลายคนอาจนึกถึงแค่อินเทอร์เน็ตบนมือถือที่เร็วขึ้น แต่ในความจริงแล้ว 5G มีเทคโนโลยีเบื้องหลังมากกว่านั้น หนึ่งในฟีเจอร์ที่ทรงพลังที่สุดคือ Network Slicing ซึ่งถูกมองว่าเป็นหัวใจสำคัญของการสร้าง IoT (Internet of Things) และ Smart City ในอนาคต Network Slicing คืออะไร? ลองจินตนาการว่าเครือข่าย 5G คือ “ถนนซูเปอร์ไฮเวย์” ขนาดใหญ่ที่รถทุกประเภทสามารถวิ่งได้พร้อมกัน Network Slicing ก็คือการ “แบ่งช่องทาง” บนถนนเส้นนี้ออกเป็นเลนย่อย ๆ โดยแต่ละเลนถูกออกแบบมาเพื่อรองรับการใช้งานที่แตกต่างกัน เช่น พูดง่าย ๆ คือ แทนที่ทุกบริการจะแย่งกันใช้ถนนเส้นเดียว Network Slicing ทำให้สามารถสร้างเลนพิเศษเฉพาะกิจได้ตามความต้องการของแต่ละงาน ทำไม Network Slicing ถึงสำคัญกับ IoT และ Smart City? 1. รองรับอุปกรณ์มหาศาล ในอนาคตจะมี อุปกรณ์ IoT นับพันล้านชิ้น ทั้งกล้อง CCTV, เซนเซอร์สิ่งแวดล้อม, เครื่องใช้ไฟฟ้า ไปจนถึงรถยนต์ไร้คนขับ➡ Network Slicing ช่วยให้แต่ละกลุ่มอุปกรณ์มีเครือข่ายเฉพาะ ไม่แย่งทรัพยากรกัน 2. ความหน่วงต่ำ (Ultra-Low Latency) บางบริการ เช่น รถไร้คนขับ หรือการผ่าตัดทางไกล ต้องการการตอบสนองในระดับมิลลิวินาที➡ เลนพิเศษของ Network Slicing รับประกันความเร็วและเสถียรภาพ 3. ความปลอดภัยสูง ระบบอย่าง…

0
Read More

เกราะป้องกันธุรกิจ: ทำไม Firewall และ CDN จึงสำคัญต่อการป้องกัน DDoS

ภัยเงียบที่ทำลายธุรกิจ: ทำความเข้าใจการโจมตี DDoS การโจมตีแบบ DDoS (Distributed Denial of Service) คือการโจมตีที่มุ่งเป้าหมายไปที่การทำให้เว็บไซต์หรือระบบออนไลน์ไม่สามารถให้บริการได้ตามปกติ ด้วยการส่งทราฟฟิกปลอมจำนวนมหาศาลเข้าไปพร้อมๆ กัน จนระบบรองรับไม่ไหวและล่มลง การโจมตีประเภทนี้ไม่เพียงแต่สร้างความเสียหายทางการเงิน แต่ยังส่งผลกระทบต่อชื่อเสียงและความน่าเชื่อถือขององค์กรอีกด้วย การป้องกันการโจมตี DDoS ที่มีประสิทธิภาพจึงต้องอาศัยกลยุทธ์ที่รอบด้านและเป็นระบบ เราจะพาไปทำความรู้จักกับมาตรการป้องกันหลักๆ ที่องค์กรชั้นนำเลือกใช้ 1. ด่านหน้า: Firewall และระบบป้องกันการบุกรุก (IPS/IDS) มาตรการป้องกันพื้นฐานแต่สำคัญที่สุดคือการใช้ Firewall ซึ่งทำหน้าที่เป็นกำแพงป้องกันคัดกรองทราฟฟิกที่ไม่พึงประสงค์ตามกฎที่กำหนดไว้ โดยสามารถบล็อก IP Address ที่น่าสงสัยได้ทันที นอกจากนี้ ยังมีการใช้ระบบ IDS (Intrusion Detection System) และ IPS (Intrusion Prevention System) ซึ่งทำงานร่วมกันเพื่อตรวจจับและป้องกันการบุกรุก: อุปกรณ์เหล่านี้เปรียบเสมือนป้อมปราการด่านแรกที่ช่วยคัดกรองทราฟฟิกที่ไม่พึงประสงค์ออกไป 2. การทำความสะอาดทราฟฟิก (Traffic Scrubbing Centers) เมื่อเกิดการโจมตี DDoS ในระดับที่รุนแรง การพึ่งพาอุปกรณ์ภายในองค์กรอาจไม่เพียงพอ บริการจากผู้เชี่ยวชาญด้าน DDoS Protection จึงเข้ามามีบทบาทสำคัญ การทำงานของ Traffic Scrubbing Center คือเมื่อเครือข่ายขององค์กรถูกโจมตี ผู้ให้บริการจะเปลี่ยนเส้นทางทราฟฟิกทั้งหมดให้ไปผ่านศูนย์ “ทำความสะอาด” ของพวกเขา ที่นั่นจะมีระบบคัดกรองขั้นสูงเพื่อแยกแยะระหว่างทราฟฟิกจริงกับทราฟฟิกที่ใช้ในการโจมตี เมื่อกระบวนการเสร็จสิ้น ระบบจะส่งเฉพาะทราฟฟิกที่ปลอดภัยกลับมายังเซิร์ฟเวอร์หลักของคุณ ทำให้การโจมตีไม่สามารถเข้าถึงเป้าหมายได้ 3. เกราะป้องกันทั่วโลก: Content Delivery Network (CDN) CDN หรือ Content Delivery…

0
Read More

ส่วนประกอบสำคัญของ Network: จาก Router ถึง Switch ทำงานร่วมกันอย่างไร?

1. Modem Modem (โมเด็ม) ย่อมาจาก Modulator-Demodulator เป็นอุปกรณ์ที่ทำหน้าที่เปลี่ยนสัญญาณข้อมูลดิจิทัลจากคอมพิวเตอร์ของคุณให้เป็นสัญญาณอนาล็อกเพื่อส่งผ่านสายโทรศัพท์, สายเคเบิล หรือใยแก้วนำแสง และทำหน้าที่ตรงกันข้ามเมื่อรับสัญญาณกลับมา 2. Router Router (เราเตอร์) เป็นอุปกรณ์ที่ทำหน้าที่ “กำหนดเส้นทาง” ของข้อมูล (data packets) ระหว่างเครือข่ายที่แตกต่างกัน เช่น ระหว่างเครือข่ายในบ้านของคุณกับเครือข่ายของอินเทอร์เน็ต 3. Switch Switch (สวิตช์) เป็นอุปกรณ์ที่ใช้เชื่อมต่ออุปกรณ์หลายๆ ชิ้นภายในเครือข่ายเดียวกัน (เช่น LAN) เข้าด้วยกัน 4. Access Point Access Point (จุดเชื่อมต่อไร้สาย) เป็นอุปกรณ์ที่ใช้สร้างเครือข่ายไร้สาย (Wi-Fi) เพื่อให้อุปกรณ์ที่รองรับสามารถเชื่อมต่อได้โดยไม่ต้องใช้สาย การทำงานร่วมกันโดยสรุป อ่านบทความเพิ่มเติมได้ที่ : https://www.itbtthai.com/category/itbt-activities/ เรียบเรียงโดย : ณฐพงศ์ กลัดพรหม

0
Read More
Contact Us

บริษัท ไอ ที บี ที คอร์ปอเรชั่น จำกัด
ที่อยู่ : 170/372 หมู่ 1 ตำบลบางคูวัด
อำเภอเมืองปทุมธานี จังหวัดปทุมธานี 12000
Tel/Fax : 02-1014461
Hotline 24 ชม. : 091-7598087
Email 1 : service@itbtthai.com
Email 2 : itbtthai@gmail.com
Line ID : @itbtthai (มี @ ด้านหน้า)
Fanpage : ITBT Technology Solutions System

office hours

วันทำการ : จันทร์ – ศุกร์
(เว้นวันหยุดเสาร์-อาทิตย์ และนักขัตฤกษ์)
เวลาทำการ : 08:30 – 17:30 น.

DBD Registered

Copyright 2020 © ITBT Corporation Co., Ltd. All Rights Reserved.

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

Allow All
Manage Consent Preferences
  • Always Active

Save