Framework และ Library เป็นเครื่องมือที่ช่วยให้นักพัฒนาซอฟต์แวร์ทำงานง่ายขึ้น แต่ทั้งสองแบบนี้มีลักษณะ คล้ายกันแต่ไม่เหมือนกัน ซึ่งความเข้าใจในความแตกต่างจะช่วยให้เลือกใช้งานได้อย่างถูกต้อง
Framework คืออะไร?
- คือ “โครงร่างหลัก” หรือ “โครงสร้างพื้นฐาน” ของแอปพลิเคชัน
- Framework จะ ควบคุมลำดับการทำงาน และให้นักพัฒนา “เสียบโค้ดเข้าไปในจุดที่กำหนดไว้”
- ตัวอย่าง:
- Angular (สำหรับ Frontend Web)
- Django (สำหรับ Python Backend)
- Spring Boot (Java Backend)
เปรียบเทียบง่าย ๆ: Framework เหมือน “โครงสร้างบ้าน” ที่วางไว้ให้เรียบร้อยแล้ว เราแค่ตกแต่งห้องตามตำแหน่งที่มี
Library คืออะไร?
- คือ “กล่องเครื่องมือ” ที่นักพัฒนาสามารถ เรียกใช้เมื่อต้องการ
- ไม่ควบคุมโค้ดหลักของโปรแกรม — นักพัฒนาเป็นฝ่ายควบคุมเอง
- ตัวอย่าง:
- React (JavaScript UI Library)
- Lodash (JavaScript Utility Library)
- NumPy (Python สำหรับการคำนวณ)
เปรียบเทียบง่าย ๆ: Library เหมือน “เครื่องมือในกระเป๋าช่าง” หยิบใช้เมื่อจำเป็นเท่านั้น
แนวคิดหลัก: “ใครควบคุมใคร” (Inversion of Control)
- Framework: คุณเขียนโค้ดตามกรอบที่มันวางไว้ → Framework ควบคุมการไหลของโปรแกรม
- Library: คุณควบคุมการทำงานหลัก → แค่ เรียกใช้ Library ตามจุดที่คุณต้องการ
คำสำคัญ:
Framework → “ถูกเรียกโดยระบบ”
Library → “เราเป็นคนเรียกใช้งาน”
ตัวอย่าง (แบ่งตามภาษา)
🔸 JavaScript / Frontend
ประเภท | ตัวอย่าง | ใช้ทำอะไร |
---|---|---|
Framework | Angular, Vue.js, Next.js | สร้างเว็บแอปแบบครบวงจร |
Library | React, jQuery | สร้าง UI หรือจัดการ DOM |
🔸 Python
ประเภท | ตัวอย่าง | ใช้ทำอะไร |
---|---|---|
Framework | Django, Flask | สร้างเว็บแอปและ API |
Library | NumPy, Pandas, Matplotlib | คำนวณข้อมูล, วิเคราะห์ข้อมูล, วาดกราฟ |
🔸 Java
ประเภท | ตัวอย่าง | ใช้ทำอะไร |
---|---|---|
Framework | Spring, Hibernate | เขียน Backend, ทำ ORM |
Library | Apache Commons, JUnit | เครื่องมือเสริม เช่น ทดสอบ, จัดการไฟล์ |
ตัวอย่างสถานการณ์:
- ถ้าเริ่มโปรเจกต์ใหม่ที่ต้องเร็วและมีมาตรฐาน → ใช้ Framework
- ถ้าโปรเจกต์มีอยู่แล้ว แค่เพิ่มฟีเจอร์เล็ก ๆ → ใช้ Library

ขอบคุณรูปภาพจาก : www.linkedin.com
สรุป: Framework และ Library ไม่ได้แข่งขันกัน แต่ “เสริมกัน”
ในโปรเจกต์ใหญ่ ๆ มักใช้ ทั้ง Framework และ Library ควบคู่กัน
ตัวอย่างเช่น:
- ใช้ Django (Framework) สร้างโครงสร้างเว็บ
- แต่ยังใช้ NumPy, Matplotlib (Library) เพื่อวิเคราะห์และแสดงผลข้อมูล
คำแนะนำเพิ่มเติม
- มือใหม่ควรเริ่มจาก Library เพื่อเข้าใจพื้นฐานการเขียนโค้ดก่อน
- เมื่อเข้าใจมากขึ้น ค่อยไปเรียนรู้ Framework เพื่อสร้างระบบที่ใหญ่ขึ้นและเป็นมืออาชีพมากขึ้น
- หมั่นดูเอกสาร (Documentation) และตัวอย่างโค้ดเสมอ
อ่านบทความเต็มได้ที่ : https://www.sencha.com
อ่านบทความเพิ่มเติมได้ที่ : https://www.itbtthai.com/category/itbt-activities/
เรียงเรียงโดย : รัตนเมธา พิริยะ