การบำรุงรักษาระบบสำรองไฟฟ้า (UPS) เพื่อความพร้อมใช้งานอย่างต่อเนื่อง
การบำรุงรักษาเชิงป้องกัน (Preventive Maintenance: PM) สำหรับระบบสำรองไฟฟ้า (UPS) เป็นกระบวนการที่มีความสำคัญอย่างยิ่งต่อความมั่นคงของระบบไฟฟ้าในองค์กร ทั้งในโรงงาน อาคารสำนักงาน หรือศูนย์ข้อมูล การดูแลรักษาที่ถูกต้องและสม่ำเสมอจะช่วยยืดอายุการใช้งานของอุปกรณ์ ป้องกันความเสียหายที่อาจเกิดขึ้น และทำให้ระบบสำรองไฟสามารถทำงานได้เต็มประสิทธิภาพเมื่อเกิดเหตุฉุกเฉิน ความสำคัญของการ PM ระบบ UPS ระบบสำรองไฟฟ้า (UPS – Uninterruptible Power Supply) เป็นอุปกรณ์สำคัญที่ช่วยจ่ายไฟสำรองโดยอัตโนมัติเมื่อเกิดเหตุไฟดับ ไฟตก หรือไฟกระชาก เพื่อป้องกันไม่ให้ระบบ IT ล่ม กระบวนการผลิตหยุดชะงัก หรืออุปกรณ์ทางการแพทย์ขาดพลังงานในเวลาวิกฤติ การละเลยการบำรุงรักษาอาจทำให้ UPS ไม่สามารถทำงานได้เมื่อถึงเวลาจำเป็น ซึ่งส่งผลให้เกิดความเสียหายทางธุรกิจอย่างร้ายแรง ขอบเขตการบำรุงรักษาเชิงป้องกัน การ PM UPS ที่มีประสิทธิภาพควรครอบคลุมทั้งระบบวงจรไฟฟ้าภายในตัวเครื่อง ระบบแบตเตอรี่ และซอฟต์แวร์ควบคุมการทำงาน โดยมีรายการตรวจสอบหลักที่ควรดำเนินการเป็นประจำ ดังนี้ ระบบแบตเตอรี่ (Battery Bank) ระบบชาร์จไฟ (Charging Circuit) วงจรควบคุมและหน้าจอแสดงผล ระบบพัดลมระบายความร้อน ระบบแจ้งเตือนและเสียงสัญญาณ (Alarm & Beep) ระบบสำรองไฟและเวลา Backup ข้อควรระวังเพิ่มเติมในการบำรุงรักษา แม้ว่าการ PM จะช่วยลดความเสี่ยงในการเสียหายของระบบได้มาก แต่ยังมีรายละเอียดสำคัญที่ควรให้ความใส่ใจเป็นพิเศษ ดังนี้ สรุป การบำรุงรักษาระบบสำรองไฟฟ้า UPS อย่างถูกต้องและสม่ำเสมอ เป็นหัวใจสำคัญในการรักษาความต่อเนื่องของระบบไฟฟ้าในองค์กร การดำเนินการ PM ตามแผนที่ชัดเจนและครอบคลุม จะช่วยยืดอายุการใช้งาน ลดความเสี่ยงจากเหตุไฟฟ้าขัดข้อง และทำให้ UPS พร้อมใช้งานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพในทุกสถานการณ์ อ่านบทความเต็มได้ที่ : https://np-eng.co.th/blog/how-to-keep-ups-ready-all-time-by-preventive-maintenance/อ่านบทความเพิ่มเติมได้ที่ : https://www.itbtthai.com/category/itbt-activities/เรียงเรียงโดย…