ในโลกของธุรกิจยุคดิจิทัล Data Center เปรียบเสมือนระบบประสาทขององค์กร ที่ช่วยประมวลผลและจัดเก็บข้อมูลสำคัญ การเลือกใช้ Data Center ที่มีมาตรฐานเหมาะสมกับระดับธุรกิจจึงเป็นเรื่องที่ต้องวางแผนอย่างรอบคอบ ซึ่งหนึ่งในเกณฑ์ที่ใช้กันอย่างแพร่หลายคือ Tier Classification ของ Uptime Institute ซึ่งแบ่งออกเป็น 4 ระดับ (Tier I ถึง Tier IV)

ปัจจัยในการเลือก Tier ให้เหมาะกับธุรกิจของคุณ
1. ความสำคัญของระบบ IT ต่อธุรกิจ
- ธุรกิจที่ไม่สามารถหยุดให้บริการได้ เช่น ระบบการเงินหรือ e-commerce ควรมองไปที่ Tier III หรือ IV
2. งบประมาณที่สามารถลงทุนได้
- Tier ที่สูงขึ้นจะมีต้นทุนที่สูงตามไปด้วย (ทั้งการสร้างและบำรุงรักษา)
3. นโยบายความต่อเนื่องทางธุรกิจ (Business Continuity Plan)
- หากองค์กรของคุณมี BCP ชัดเจนและมี SLA เข้มงวดกับลูกค้า การใช้ Tier สูงเป็นเรื่องจำเป็น
4. ความเสี่ยงที่ยอมรับได้ (Risk Tolerance)
- ธุรกิจที่มีความเสี่ยงต่อการสูญเสียข้อมูลหรือชื่อเสียงจาก Downtime มาก ควรใช้ Tier สูงเพื่อป้องกันความเสียหาย
ตัวอย่างการใช้งานจริง
- Startups / SMEs ที่เพิ่งเริ่มต้น อาจใช้บริการ Co-location ที่ Tier I หรือ II เพื่อลดต้นทุน
- ธนาคาร / ระบบชำระเงิน ที่ต้องการระบบเสถียรและปลอดภัย ควรใช้ Tier III ขึ้นไป
- หน่วยงานความมั่นคง / Cloud Provider ควรใช้ Tier IV เพื่อรับมือกับทุกสถานการณ์ไม่คาดคิด
สรุป
การเลือก Tier ของ Data Center ไม่ได้มีคำตอบเดียวสำหรับทุกธุรกิจ แต่ควรพิจารณาจาก ระดับความสำคัญของระบบ IT, งบประมาณ, และ ความเสี่ยงที่องค์กรยอมรับได้ หากเลือกได้เหมาะสม จะช่วยเพิ่มความมั่นใจให้กับผู้ใช้บริการ ลดความเสี่ยงทางธุรกิจ และวางรากฐานให้องค์กรเติบโตได้อย่างมั่นคงในยุคดิจิทัล