Software

ทำไมต้องใช้ LARAVEL ในปี 2025 กุญแจสำคัญของ Web Development และ Enterprise Application

📊 อ้างอิงจาก Stack Overflow Developer Survey 2025 Laravel ยังคงเป็น PHP Framework อันดับต้น ๆ ที่นักพัฒนาทั่วโลกเลือกใช้ โดยกว่า 70% ของเว็บ PHP สมัยใหม่ ถูกสร้างบน Laravel เพราะช่วยให้พัฒนาเว็บได้เร็วขึ้น ปลอดภัยขึ้น และรองรับการทำงานในระดับ Enterprise จุดเด่นที่ทำให้ Laravel เป็นที่นิยม Laravel กับการพัฒนา Web Application ระดับองค์กร ตารางเปรียบเทียบ Laravel กับ Framework อื่น ๆ Framework จุดเด่น เหมาะสำหรับงาน Laravel (PHP) Security, MVC, Artisan CLI, Eloquent ORM Web Application, Enterprise Django (Python) Data Science, AI integration AI-driven apps, Web Spring Boot (Java) Robust, scalable Enterprise, Banking, Finance Express.js (Node) Lightweight, fast API, Realtime Apps Ruby on Rails…

0
Read More

เขียน Prompt ให้ได้คำตอบครบถ้วนจาก ChatGPT: สูตร RGCF+C ใช้ได้จริง

เขียน Prompt ให้ได้คำตอบครบถ้วนจาก ChatGPT: สูตร RGCF+C ใช้ได้จริง หลายครั้งถาม ChatGPT แล้วได้คำตอบ “ยาวแต่ไม่โดน” — ปัญหามักไม่ได้อยู่ที่โมเดล แต่อยู่ที่ วิธีเขียน Prompt ของเราเอง ทางลัดคือใช้โครงสร้าง RGCF+C ให้ครบถ้วนก่อนกดส่ง RGCF+C = Role → Goal → Context → Format + Constraints แนวทางทางการของ OpenAI เน้น “เขียนคำสั่งให้เฉพาะเจาะจง, มีบริบท, และปรับแบบวนรอบ (iterative)” เพื่อให้คุณภาพคำตอบสม่ำเสมอ และแนะนำให้ใช้รูปแบบเอาต์พุตที่ตรวจสอบได้เมื่อต้องการความเป๊ะของโครงสร้าง. OpenAI Platform+2OpenAI Platform+2 ทำไม RGCF+C ถึงได้ผล สำหรับงานโปรดักชัน แนะนำตรวจความปลอดภัยของเอาต์พุตและวางกระบวนการตรวจทานตาม Safety Best Practices/Safety Checks ของ OpenAI. OpenAI Platform+1 เทมเพลต Prompt (คัดลอกใช้ได้ทันที) ตัวอย่างใช้งานจริง 1) ตัวอย่างสำหรับ IT Support ผลลัพธ์ที่ต้องการ: ลิสต์ขั้นตอนสั้น กระชับ ใช้ได้จริง เช่น ตรวจสวิตช์ Wi-Fi → ลืม/จำรหัส → รีสตาร์ตอุปกรณ์ → Forget & Reconnect →…

0
Read More

Framework และ Library ต่างกันอย่างไร?

Framework และ Library เป็นเครื่องมือที่ช่วยให้นักพัฒนาซอฟต์แวร์ทำงานง่ายขึ้น แต่ทั้งสองแบบนี้มีลักษณะ คล้ายกันแต่ไม่เหมือนกัน ซึ่งความเข้าใจในความแตกต่างจะช่วยให้เลือกใช้งานได้อย่างถูกต้อง Framework คืออะไร? เปรียบเทียบง่าย ๆ: Framework เหมือน “โครงสร้างบ้าน” ที่วางไว้ให้เรียบร้อยแล้ว เราแค่ตกแต่งห้องตามตำแหน่งที่มี Library คืออะไร? เปรียบเทียบง่าย ๆ: Library เหมือน “เครื่องมือในกระเป๋าช่าง” หยิบใช้เมื่อจำเป็นเท่านั้น แนวคิดหลัก: “ใครควบคุมใคร” (Inversion of Control) คำสำคัญ:Framework → “ถูกเรียกโดยระบบ”Library → “เราเป็นคนเรียกใช้งาน” ตัวอย่าง (แบ่งตามภาษา) 🔸 JavaScript / Frontend ประเภท ตัวอย่าง ใช้ทำอะไร Framework Angular, Vue.js, Next.js สร้างเว็บแอปแบบครบวงจร Library React, jQuery สร้าง UI หรือจัดการ DOM 🔸 Python ประเภท ตัวอย่าง ใช้ทำอะไร Framework Django, Flask สร้างเว็บแอปและ API Library NumPy, Pandas, Matplotlib คำนวณข้อมูล, วิเคราะห์ข้อมูล, วาดกราฟ 🔸 Java ประเภท ตัวอย่าง ใช้ทำอะไร Framework Spring, Hibernate…

0
Read More

SDLC วงจรชีวิตของการพัฒนาซอฟต์แวร์

SDLC (Software Development Life Cycle) คือ กระบวนการในการพัฒนาซอฟต์แวร์ ตั้งแต่เริ่มต้นจนถึงการนำไปใช้งานจริงและการบำรุงรักษาหลังจากนั้น โดยมีเป้าหมายเพื่อให้ซอฟต์แวร์ที่สร้างขึ้นมีคุณภาพสูง ตรงตามความต้องการของผู้ใช้ สามารถดูแลต่อได้ในระยะยาว และรักษาซอฟต์แวร์ให้มีประสิทธิภาพ เป็นวงจรชีวิตของการพัฒนาซอฟต์แวร์ มี 7 ขั้นตอนหลัก ดังนี้ 1. Planning (การวางแผน) เปรียบเหมือนการวางแผนก่อนสร้างบ้าน ผลลัพธ์: เอกสารแผนงานและขอบเขตโปรเจกต์ 2. Requirements Analysis (วิเคราะห์ความต้องการ) คือการเข้าใจว่าผู้ใช้งานต้องการอะไร ผลลัพธ์: รายการความต้องการของระบบ 3. Design (การออกแบบระบบ) เปรียบเหมือนการวาดพิมพ์เขียวก่อนสร้างจริง ผลลัพธ์: แผนผังระบบ, mockup, และ design documents 4. Development (การพัฒนา/เขียนโค้ด) ลงมือเขียนโค้ดจริงตามที่ออกแบบไว้ ผลลัพธ์: ซอฟต์แวร์เวอร์ชันแรกที่ใช้งานได้ 5. Testing (การทดสอบ) ตรวจสอบว่าโปรแกรมทำงานถูกต้องหรือไม่ ผลลัพธ์: ซอฟต์แวร์ที่ผ่านการตรวจสอบ พร้อมใช้งานจริง 6. Deployment (การนำไปใช้งานจริง) ปล่อยระบบให้ผู้ใช้ใช้งาน ผลลัพธ์: ระบบเริ่มใช้งานจริง 7. Maintenance (การบำรุงรักษา/อัปเดต) งานหลังบ้านที่สำคัญไม่แพ้กัน 📌 ผลลัพธ์: ระบบเสถียรและพัฒนาต่อเนื่อง 🛠️ ทำไม SDLC ถึงสำคัญ? 🔍 สรุปง่าย ๆ: SDLC คืออะไร? “เป็นขั้นตอนที่ใช้ในการวางแผน สร้าง ทดสอบ และดูแลซอฟต์แวร์ให้มีประสิทธิภาพและตอบโจทย์ผู้ใช้งาน” อ่านบทความข่าวสารเพิ่มเติม…

0
Read More

ทำไมต้องอัปเดตคอมพิวเตอร์ให้เป็น Version ปัจจุบันตลอดเวลา?

1. ความปลอดภัย (Security Updates) การอัปเดตด้านความปลอดภัยคือหัวใจสำคัญที่สุด เพราะ: ช่องโหว่ (Vulnerabilities) ทุกระบบปฏิบัติการมีช่องโหว่เสมอ เช่น buffer overflow, privilege escalation แฮกเกอร์สามารถใช้ช่องโหว่เหล่านี้เพื่อแอบรันโค้ดอันตราย, ขโมยข้อมูล, ล็อกไฟล์คุณเพื่อเรียกค่าไถ่ (ransomware) ตัวอย่างภัยจริง: WannaCry Ransomware (2017):ใช้ช่องโหว่ใน Windows ที่ Microsoft เคยอัปเดตไปแล้ว แต่หลายคนไม่อัป ทำให้โดนกันทั่วโลก ระบบที่ได้รับผล: Windows / macOS / Linux โปรแกรม antivirus, web browser (เช่น Chrome, Firefox), Adobe Reader ฯลฯ 2. แก้ไขข้อผิดพลาด (Bug Fixes) บั๊กในซอฟต์แวร์อาจทำให้ระบบ: ใช้งานผิดปกติ เช่น เปิดโปรแกรมแล้วค้าง, คีย์บอร์ดพิมพ์ไม่ได้, ไฟล์หาย ทำให้สูญเสียข้อมูลโดยไม่ตั้งใจ ตัวอย่างบั๊ก: Excel คำนวณผิดในบางกรณี (เคยเกิดใน Office 2007) macOS เวอร์ชันหนึ่งเคยเปิดสิทธิ์ root โดยไม่ต้องใส่รหัสผ่าน (แก้ด้วย update ทันที) การอัปเดตช่วยลดปัญหาทางเทคนิคที่ไม่คาดคิดและยากต่อการแก้ไขด้วยตัวเอง 3. ปรับปรุงประสิทธิภาพ (Performance Improvements) ทำให้ระบบเร็วขึ้น: ปรับปรุงการจัดการ RAM, CPU ให้มีประสิทธิภาพ ลดโหลดของโปรเซสเบื้องหลัง ปรับเวลา…

0
Read More

Power BI เครื่องมือวิเคราะห์ข้อมูลจากไมโครซอฟท์

ในการทำงานของบริษัท หนึงในงานที่แผนกITจะต้องเจอคือการสรุปข้อมูลต่าง ๆ จากฐานข้อมูลในระบบฐานข้อมูลมาเป็นภาพที่แม้แต่คนทั่วไปสามารถเข้าใจได้ ถึงแม้ในปัจจุบันจะมีหลากหลายโปรแกรมที่สามารถวิเคราะห์ข้อมูลแล้ว แต่ก็มีโปรแกรมวิเคราห์ข้อมูลที่องค์กรณ์เชื่อใจอย่างยาวนาน ก็คือ Microsoft power bi Power BI: จากส่วนเสริม Excel สู่เครื่องมือวิเคราะห์ข้อมูลอันทรงพลัง Power BI เริ่มต้นจาก Power Pivot และ Power Query ใน Microsoft Excel โดยมีแนวคิดริเริ่มจาก Thierry D’Hers และ Amir Netz ภายใต้ทีมพัฒนาระบบรายงานของ Microsoft SQL Server ต่อมา Ron George ได้ออกแบบ Power BI ภายใต้โค้ดเนม Crescent ในช่วงฤดูร้อนปี 2010 และเปิดให้ดาวน์โหลดครั้งแรกเมื่อวันที่ 11 กรกฎาคม 2011 พร้อมกับ SQL Server (โค้ดเนม Denali ) ในเดือนกันยายน 2013 Microsoft ได้เปิดตัว Power BI สำหรับ Office 365 โดยอิงจากส่วนเสริมของ Excel อย่าง Power Query, Power Pivot และ Power View ต่อมามีการเพิ่มฟีเจอร์สำคัญ เช่น Q&A (ถาม-ตอบด้วยภาษาธรรมชาติ), การเชื่อมต่อข้อมูลองค์กร…

0
Read More

ทำไมต้องติดตั้งแอนตี้ไวรัสในคอมพิวเตอร์?

ทำไมต้องติดตั้งแอนตี้ไวรัสในคอมพิวเตอร์? คอมพิวเตอร์เป็นอุปกรณ์ที่มีความเสี่ยงสูงต่อการถูกโจมตีจากไวรัส มัลแวร์ และภัยคุกคามทางไซเบอร์ต่าง ๆ ซึ่งสามารถสร้างความเสียหายได้ทั้งในระดับบุคคลและองค์กร ดังนั้นการติดตั้งโปรแกรมแอนตี้ไวรัสจึงเป็นสิ่งสำคัญเพราะช่วยปกป้องข้อมูลและระบบของคุณจากอันตรายเหล่านี้ 1. ป้องกันไวรัสและมัลแวร์ทุกประเภท ไวรัสคอมพิวเตอร์เป็นโปรแกรมที่สามารถทำซ้ำตัวเองและแพร่กระจายไปยังไฟล์และระบบต่าง ๆ ซึ่งอาจทำให้คอมพิวเตอร์ทำงานผิดปกติหรือข้อมูลสูญหาย มัลแวร์ (Malware) เป็นซอฟต์แวร์ที่ถูกออกแบบมาเพื่อทำลายหรือขโมยข้อมูล เช่น ไวรัส (Virus) – แพร่กระจายไปยังไฟล์หรือซอฟต์แวร์อื่น ๆ และก่อให้เกิดความเสียหาย โทรจัน (Trojan Horse) – แฝงตัวมากับซอฟต์แวร์ที่ดูเหมือนไม่เป็นอันตรายแต่จริง ๆ แล้วมีโค้ดที่เป็นอันตราย เวิร์ม (Worms) – กระจายตัวผ่านเครือข่ายโดยไม่ต้องอาศัยไฟล์ใด ๆ แรนซัมแวร์ (Ransomware) – ล็อกไฟล์หรือระบบแล้วเรียกค่าไถ่ สปายแวร์ (Spyware) – ลอบติดตามพฤติกรรมผู้ใช้และขโมยข้อมูล แอนตี้ไวรัสสามารถสแกน ตรวจจับ และกำจัดมัลแวร์เหล่านี้ได้ 2. ป้องกันฟิชชิ่ง (Phishing) และเว็บไซต์อันตราย ฟิชชิ่งเป็นเทคนิคที่แฮกเกอร์ใช้เพื่อหลอกล่อให้ผู้ใช้เปิดเผยข้อมูลสำคัญ เช่น ชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน หรือข้อมูลบัตรเครดิต โดยมักจะมาในรูปแบบของอีเมลหรือเว็บไซต์ปลอม แอนตี้ไวรัสบางตัวมีฟีเจอร์ป้องกันฟิชชิ่งที่ช่วยตรวจจับและบล็อกเว็บไซต์ที่น่าสงสัยก่อนที่คุณจะเข้าถึง 3. ตรวจจับและลบไฟล์อันตรายจากการดาวน์โหลด เมื่อดาวน์โหลดไฟล์หรือโปรแกรมจากอินเทอร์เน็ต มีโอกาสสูงที่ไฟล์นั้นอาจมีไวรัสแฝงอยู่ แอนตี้ไวรัสสามารถตรวจสอบไฟล์ที่ดาวน์โหลดมาและแจ้งเตือนหากพบสิ่งแปลกปลอม 4. ปกป้องข้อมูลส่วนตัวและธุรกรรมออนไลน์ ปัจจุบันการทำธุรกรรมออนไลน์ เช่น การโอนเงินผ่านอินเทอร์เน็ตแบงก์กิ้ง หรือการใช้บัตรเครดิตในการซื้อสินค้าออนไลน์ เป็นเรื่องปกติ แฮกเกอร์มักใช้มัลแวร์ประเภทคีย์ล็อกเกอร์ (Keylogger) เพื่อบันทึกการกดแป้นพิมพ์ของคุณ และนำข้อมูลไปใช้ในทางที่ผิด แอนตี้ไวรัสที่มีฟีเจอร์ป้องกันข้อมูลส่วนตัวจะช่วยป้องกันการขโมยข้อมูลสำคัญของคุณ 5. ป้องกันการโจมตีจากแฮกเกอร์ (Hacking & Exploits Protection) แฮกเกอร์อาจใช้ช่องโหว่ของระบบปฏิบัติการหรือซอฟต์แวร์เพื่อแฮ็กเข้าสู่คอมพิวเตอร์ของคุณ…

0
Read More

คำสั่ง Command Prompt ใน Window

Command Prompt (CMD) ใน Windows เป็นโปรแกรมที่ทำหน้าที่เป็น อินเทอร์เฟซบรรทัดคำสั่ง (Command-Line Interface) ซึ่งช่วยให้ผู้ใช้สามารถสั่งงานระบบปฏิบัติการผ่านการพิมพ์คำสั่งข้อความแทนการใช้กราฟิก (1) Dir # แสดงรายการไฟล์และโฟลเดอร์ในไดเรกทอรีปัจจุบัน คำสั่ง dir ใน Command Prompt (CMD) ของ Windows ใช้สำหรับแสดงรายการไฟล์และโฟลเดอร์ในไดเรกทอรีปัจจุบันหรือไดเรกทอรีที่ระบุ (2) Dir /a # แสดงไฟล์ทั้งหมด รวมถึงไฟล์ที่ซ่อนอยู่ dir /a เป็นคำสั่งใน Command Prompt ที่ใช้แสดงไฟล์และโฟลเดอร์ทั้งหมดในไดเรกทอรี รวมถึงไฟล์ที่ถูกซ่อน (Hidden) หรือไฟล์ระบบ (System) โดยที่ a ย่อมาจาก “Attributes” (แอตทริบิวต์) Dir /b # แสดงเฉพาะชื่อ File หรือชื่อ Directory (3) Cd # เปลี่ยนไดเรกทอรี  Cd Documents เข้าไปในโฟลเดอร์ Documents คำสั่ง cd Documents ใน Command Prompt (CMD) ใช้เพื่อ เปลี่ยนไดเรกทอรีปัจจุบันไปยังโฟลเดอร์ Documents ที่อยู่ภายในไดเรกทอรีปัจจุบัน Cd .. ย้อนกลับไปยังโฟลเดอร์ก่อนหน้า cd .. ใน Command Prompt (CMD) คือคำสั่งที่ใช้…

0
Read More

Storage & Backup: ป้องกันข้อมูลหาย 100% พร้อมเคล็ดลับดูแล SSD/HDD ให้ใช้งานยาวนาน!

Storage & Backup: ป้องกันข้อมูลหาย 100% พร้อมเคล็ดลับดูแล SSD/HDD ให้ใช้งานยาวนาน! ในยุคที่ข้อมูลสำคัญไม่ว่าจะเป็นเอกสาร งาน หรือไฟล์เกมมีค่ามาก การจัดการ Storage & Backup ให้มีประสิทธิภาพเป็นสิ่งที่จำเป็น วันนี้เราจะมาพูดถึง วิธีป้องกันข้อมูลหาย การดูแล SSD/HDD และแนวทางสำรองข้อมูล ให้ปลอดภัยที่สุด

0
Read More
Contact Us

บริษัท ไอ ที บี ที คอร์ปอเรชั่น จำกัด
ที่อยู่ : 170/372 หมู่ 1 ตำบลบางคูวัด
อำเภอเมืองปทุมธานี จังหวัดปทุมธานี 12000
Tel/Fax : 02-1014461
Hotline 24 ชม. : 091-7598087
Email 1 : service@itbtthai.com
Email 2 : itbtthai@gmail.com
Line ID : @itbtthai (มี @ ด้านหน้า)
Fanpage : ITBT Technology Solutions System

office hours

วันทำการ : จันทร์ – ศุกร์
(เว้นวันหยุดเสาร์-อาทิตย์ และนักขัตฤกษ์)
เวลาทำการ : 08:30 – 17:30 น.

DBD Registered

Copyright 2020 © ITBT Corporation Co., Ltd. All Rights Reserved.

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

Allow All
Manage Consent Preferences
  • Always Active

Save